วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

1.ดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้ง Xampp จาก https://www.apachefriends.org/index.html คลิกเลือกที่ Xampp for window


2.กดติดตั้ง (ดับเบิลคลิกจากไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา) 


 3.ถ้าหากขึ้นคำเตือนตามภาพให้กดโอเค


 4.กดปุ่ม next


 5.เลือกโปรแกรมย่อยที่จะทำการติดตั้งกดปุ่ม next


6.เลือกโฟลเดอร์ที่จะจัดเก็บ และกดปุ่ม next


7.กดปุ่ม next


8.กดปุ่ม next


9.โปรแกรมอยู่ระหว่างการติดตั้ง (รอ)


10.เมื่อเสร็จแล้วมันจะขึ้นหน้าจอมาแบบนี้ ให้เราคลิกที่ finish




การติดตั้งโปรแกรม Xampp ก็เสร็จเรียบร้อย ไม่ยากใช่ไหมครับ ส่วนใหญ่มีแต่ Next Next Next ลองติดตั้งและนำไปใช้งานดูนะครับ
        ก่อนอื่นมาดูการเรียกใช้งานก่อนนะครับ โปรแกรม Xampp นี้ ถ้าติดตั้งตามปกติไม่ได้แก้ไขค่าอะไรในตอนติดตั้ง โปรแกรมจะติดตั้งที่ไดร์ C เมื่อจะใช้งานก็คลิกไดร์ C เลือกโฟล์เดอร์ Xampp แล้วคลิกเลือก xampp-control.exe จะขึ้นหน้าจอ Xampp Control Panal มาให้


นี่ภาพหน้าจอหลักของตัวโปรแกรม โดยการเริ่มใช้งานให้กดปุ่ม start ตรงเมนู Apache และ My SQL ตามภาพด้านล่าง (การใช้งานที่จำเป็นจริงๆจะใช้แค่ 2 ตัวนี้


หากโปรแกรมทำงานปกติ บนหน้าจอตรงคำว่า Apache และ Mysql จะขึ้นแถบสีเขียว 


        จากนั้นเราสามารถเรียกใช้งานเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่เราติดตั้งใช้งานได้ผ่านเว็บบราวเซอร์ คือเปิด google crome (อย่างอื่นก็ได้นะครับ) ขึ้นมา แล้วพิมพ์ URL ว่า localhost ก็จะได้หน้าตาตามภาพด้านล่าง 


ถ้าได้หน้าตาแบบนี้สบายใจได้ ถือว่าโปรแกรมของเราทำงานได้อย่างสมบูรณ์ แต่มีการเรียกใช้งานอีกวิธีโดยผ่านตัวโปรแกรม Xampp โดยสะดวกกว่าเยอะเลย คือกดปุ่ม admin ที่ตัวโปรแกรม Xampp 


ก็จะได้หน้าจอมาแบบนี้ ซึ่งเหมือนกับการเรียกใช้งานแบบวิธีแรก


ส่วนการใช้งานฐานข้อมูล จะเรียกใช้งานผ่านแถบเมนูด้านซ้ายมือ จะแนะนำการสร้างฐานข้อมูลในโอกาสต่อไป


       ที่ผ่านมาเป็นการเรียกใช้งาน แค่ตัวโปรแกรม Xampp แต่หลังจากนี้ จะเป็นการเรียกใช้งานเว็บไซต์ของเรา หากเราสร้างเว็บที่เขียนโค๊ดขึ้นมาเอง เราก็นำไฟล์เว็บที่เขียนขึ้นมานี้ ไปไว้ในโฟลเดอร์ htdocs (อยู่ในโฟล์เดอร์ Xampp ในไดร์ C) เมื่อเจอโฟลเดอร์ก็วางไฟล์ลงไปได้เลย ส่วนถ้าเป็นเว็บไซต์ Moodle เราก็นำตัวติดตั้งในโฟลเดอร์นี้ แล้วเรียกใช้งานจาก locolhost


         ภาพด้านล่างนี้ เป็นด้านในของโฟลเดอร์ htdocs โดยจะสังเกตุเห็นว่ามีโฟลเดอร์ moodle อยู่ ซึ่งเป็นเว็บไซต์ moodle ที่ผมได้ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้แล้ว (วีธีการติดตั้ง moodle จะอธิบายในโอกาสต่อไป)


        สุดท้ายเมื่อเราจะเรียกใช้งาน (ดูเว็บไซต์ของเรา) ให้เราเข้าเว็บบราวเซอร์ แล้วพิมพ์ URL ว่า localhost/ชื่อโฟลเดอร์ที่เราตั้ง  ตามตัวอย่าง คือ localhost/moodle (ชื่อโฟลเดอร์เว็บไซต์ แล้วแต่เราจะตั้งนะครับ) เมื่อกด enter หน้าจอก้จะแสดงผลเว็บไวตืของเราออกมา

ปล.หวังว่าการใช้งานคงไม่ยากเกินไปนะครับ มีอะไรสงสัยสามารถสอบถามผ่านคอมเมนต์
ด้านล่างได้ครับ

        การติดตั้ง joomla บน Hostinger ก่อนการติดตั้งเราต้องทำการสมัครสมาชิกเว็บไซต์ก่อน หากยังไม่ได้สมัครสมาชิกก็สมัครได้ จากลิงค์นี้ หากสมัครสมาชิกแล้วก็ทำการติดตั้ง joomla ได้ตามขั้นตอนการติดตั้งด้านล่าง (มองไม่ชัดให้คลิกที่ภาพ เพื่อดูภาพขนาดใหญ่)
ขั้นตอนการติดตั้ง joomla ผ่าน Hostinger 
1.เข้าสู่ระบบ จากลิงค์นี้ หากเข้าสู่ระบบไว้แล้ว จะขึ้นหน้าจอตามภาพ ให้คลิกเลือก เมนูโฮสติงด้านบน และเลือกเว็บไซต์ที่เราสมัครไว้


2.จะขึ้นหน้าจอตามภาพด้านล่างนี้ ให้เราเลื่อนลงมาด้านล่าง หาเมนูที่เขียนว่า โปรแกรมติดตั้งอัตโนมัติ


3.คลิกที่เมนูติดตั้งอัตโนมัติ


4.หน้าต่อมาจะขึ้นให้เลือกว่าเราจะติดตั้ง โปรแกรมอะไร ในกรณีให้คลิกเลือกที่ Joomla


5.จากนั้นกรอกรายละเอียดข้อมูลให้เรียบร้อย รหัสผู้ใช่กับรหัสผ่าน หมายถึงรหัสผ่านที่ใช้ในการเข้าสู่ระบบของ joomla เมื่อกรอกเสร็จแล้วให้คลิกปุ่มติดตั้ง


6.เมื่อคลิกปุ่มติดตั้ง จะขึ้นหน้าจอให้รอ ให้เรารอประมาณ 5 นาที แล้วกด F5 ได้เลย เพราะถ้าไม่กดโปรแกรมจะค้างอยู่หน้านี้ตลอด


7.เมื่อกด F5 จะขึ้นหน้าจอตามภาพด้านล่าง เป็นอันว่าการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์


8.หากต้องการดูรายละเอียดให้คลิกที่ รายละเอียดบัญชี จะขึ้นหน้าจอตามภาพด้านล่าง สามารถเข้าสู่หน้าเว็บ Joomla จากเว็บด้านล่างได้เลย 


การติดตั้ง joomla ผ่าน hostinger สามารถใช้งานได้เกือบ 100 เปอร์เซ็น เพราะโปรแกรมไม่หนักมาก แต่ถ้าติดตั้ง moodle จะค่อนข้างมีปัญหา เพราะโปรแกรม moodle จะค่อนข้างหนักโฮส
***มีอะไรสงสัยโพสถามด้านล่างได้ครับ
      เว็บโฮสติ้งที่จะแนะนำนี้ คือเว็บ Hostinger.com เป็นเว็บโฮสติ้งให้ใช้งานฟรี 2 GB และมีเเพคเกจแบบ Unlimited เกือบทุกอย่าง ประมาณเดือนละ 100 กว่าบาท (แต่ถ้าเป็นช่วงโปรโมชัน จะลดอีก ประมาณ 40-60 เปอร์เซ็น) ข้อดีของเว็บโฮสติ้งนี้ คือสามารถติดตั้ง CMS ได้อัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็น joomla drupal wordpress และที่สำคัญสามารถติดตั้ง moodle แบบอัตโนมัติได้ด้วย รวมๆแล้วติดตั้งได้อัตโนมัติ เกือบ 100 ตัว (แค่คลิกเพียงไม่กี่ครั้ง) สำหรับครั้งนี้จะแนะนำการสมัครสมาชิกเพียงอย่างเดียว สำหรับการติดตั้ง moodle จะแนะนำในโอกาสต่อไป
ขั้นตอนการสมัครสมาชิก
1.คลิก สมัครสมาชิกที่นี้ หรือคลิกที่ภาพด้านล่าง

Free Hosting

2.เมื่อเข้าเว็บจะเจอหน้านี้ ให้กดที่ปุ่มสั่งซื้อ


3.กรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวให้เรียบร้อย แล้วกดปุ่มสร้างบัญชี
  - อย่าลืมติกยอมรับเงื่อนไขการใช้บริการด้วยนะครับ
  - อีเมล์ที่ใช้ต้องเป็นอีเมล์ที่ใช้งานได้จริงๆนะครับ เพราะทางเว็บจะให้เราเข้าไปยืนยันอีเมล์

4.เมื่อสร้างบัญชีเรียบร้อยแล้ว จะได้หน้าจอตามภาพ หลังจากนี้ให้เราไปยืนยันบัญชี ในอีเมล์ที่เราใช้ในการสมัคร ทางเว็บจะส่งลิงค์ยืนยันไปให้


5.เมื่อยืนยันอีเมล์เรียบร้อยแล้ว ต่อมาเป็นขั้นตอนในการสร้างบัญชีเว็บไซต์ (สร้างโดเมนเพื่อใช้งานเว็บ ) คลิกเมนูด้านบน เลือกที่สร้างบัญชี


6.คลิกเลือกเเพคเกจ ให้เลือกแพคเกจฟรี (หรือใครจะสมัครเป็นแบบจ่ายตังค์ก้ได้นะครับ) โดยคลิกที่ปุ่มสั่งซื้อ


7.จากนั้นกรอกข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับโดเมนเนม 
    - ประเภทโดเมนเลือกเป็นโดเมนย่อย (จะฟรี)
    - โดเมนย่อย ให้พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ที่เราต้องการจะตั้ง
    -  รหัสผ่านให้ใส่รหัสผ่านตอนที่สมัครในขั้นตอนแรก
    -  คลิกดำเนินการต่อ



ด้านล่างนี้จะเป็นโดเมนย่อยที่เราสามารถเลือกเปลี่ยนได้


8.ต่อไปเป็นการยืนยันการสั่งซื้อ กรอก Captcha ให้เรียบร้อย และติิกยอมรับเงื่อนไขการใช้บริการ ขากนั้นกดปุ่มสั่งซื้อ


9.หากได้หน้าจอดังภาพด้านล่าง แสดงว่าการสมัครสมาชิกมีผลสมบูรณ์


สำหรับการติดตั้งmoodle บน hostinger จะแนะนำในโอกาสต่อไปครับ อย่าลืมสมัครไปใช้งานกันดูนะครับ
หมายเหตุ
     - การสมัครสมาชิกบางครั้งต้องรอหลายนาที หลังการสมัครเสร็จ วิธีเช็คว่าเว็บไซต์ที่เราสมัครสามารถใช้งานได้หรือไม่ ให้พิมพ์ชื่อเว็บไซต์ที่เราสมัคร เช่น test.esy.es (ตามที่เราสมัคร) ถ้าขึ้นหน้าจอแบบภาพด้านล่าง แสดงว่าใช้งานได้แล้ว แต่หากยังไม่ขึ้น ต้องรอก่อน ห้ามดำเนินการใดๆทั้งสิน


Free Hosting

วันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2557

      Joomla คือ CMS ตัวหนึ่ง จากหลายๆตัว (สำหรับความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ CMS ศึกษาได้จาก ที่นี้ ) โดยถือได้ว่าเป็น CMS หรือระบบจัดการเนื้อหา ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย เนื่องจากเป็นระบบที่สามารถใช้งานได้ฟรี รวมถึงการใช้งาน ก็จะง่ายๆกว่า CMS ตัวอื่นๆ เนื่องจากมีผู้ใช้งานมากนี้เอง จึงทำให้จูมล่ามีปลักอินเสริม หรือระบบย่อยต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเว็บของเราอย่างมากมาย หากมีปัญหาในการใช้งานก็จะมีเว็บบอร์ดไว้คอยปรึกษาปัญหารวมทั้งแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี


       ซึ่งเว็บไซต์ที่พัฒนาโดยระบบจูมล่านี้มีทั้งเว็บไซต์ขนาดเล็ก เว็บไซต์ส่วนตัว ไปจนถึงเว็บไซต์ขององค์กรณ์ขนาดใหญ่ จากจำนวนผุ้ใช้งานสามารถการันตีคุณภาพของเว็บไซต์ที่พัฒนาโดยจูมล่าได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของจูมล่า http://www.joomla.org/

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

     หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมไม่เอาที่เค้าจัดอันดับในปี 2014 ก็มันยังไม่หมดปี เลยยังสรุปไม่ได้ เลยต้องเอาข้อมูลของปี 2013 มาให้ดูพลางๆก่อน สำหรับ CMS ยอดนิยมในการจัดอันดับในครั้งนี้ ไม่ใช่เฉพาะในไทย แต่เป็นการจัดอันดับ CMS ทั่วทั่งโลก หลายคนคงทราบว่า CMS ยอดนิยมหลักๆมีไม่กี่ตัวหรอก คือ Joomla Wordpress และ Drupal แต่ตัวไหนยอดนิยมสุดล่ะ หลายคนยังไม่ทราบ รู้หรือไม่หลายคนยังเข้าใจผิดคิดว่า joomla เป็น cms ยอดนิยมที่สุด (รวมถึงผมด้วย) เราลองมาดูนะครับ ว่าในปี 2013 Top 10 cms มีอะไรบ้าง
ขอบคุณรูปภาพจากเว็บ http://rattapongart.files.wordpress.com/

อันดับ 1 Wordpress (เหลือเชื่อครับ เกินครึ่ง แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ กับการใช้งาน และคุณภาพของ cms ตัวนี้)
อันดับ 2 Drupal (เป็น cms ที่คุณภาพอีกตัวหนึ่ง แต่ค่อนข้างใช้งานยาก สำหรับ user ทั่วไป
อันดับ 3 Joomla (นึกว่าอันดับ 1 ที่แท้อันดับ 3 แต่ถ้าเป็นในไทย อันดับอาจจะดีกว่านี้ก็ได้ครับ)
อันดับ 4 VBulliten
อันดับ 5 Expression
อันดับ 6 DotnetNuke
อันดับ 7 Crystal
อันดับ 8 Extron
อันดับ 9 Thomson
อันดับ 10 iAPPS
         จากอันดับ 4 ขึ้นไปนี่แทบไม่ได้ยินชื่อเลยนะครับ เดี๊ยวต้องลองไปใช้งานดูบ้างแล้ว 
***สำหรับ Top 10 cms ของไทย เดี๊ยวจะหาข้อมูลมาให้ดูกันครับ

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557

          CMS ย่อมาจาก Content Management System เป็นระบบที่นำมาช่วยในการสร้างและบริหารเว็บไซต์แบบสำเร็จรูป โดยในการใช้งาน CMS นั้นผู้ใช้งานแทบไม่ต้องมีความรู้ในด้านการเขียนโปรแกรม ก็สามารถสร้างเว็บไซต์ได้ ตัวของ CMS เองจะมีโปรแกรมแถมมาและสามารถแทรกเองได้มากมายเช่น webboard , ระบบจัดการป้ายโฆษณา , ระบบนับจำนวนผู้ชม แม้แต่กระทั่งตระกร้าสินค้า และอื่นๆอีกมากมาย  CMS เป็นเหมือนโปรแกรม โปรแกรมหนึ่ง ที่มีผู้พัฒนามาจากภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในเว็บไซต์เช่น PHP , Python , ASP , JSP ซึ่งในปัจจุบันมีคนใจดีพัฒนา CMS ฟรีขึ้นมามากมายอย่างเช่น Mambo , Joomla , Wordpress แน่นอนว่าผู้พัฒนาระบบ CMS ฟรี ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นล้วนเป็นมืออาชีพที่มีฝีมือในเรื่องของ เว็บไซต์เป็นอย่างยิ่ง ทั้งการเขียนโปรแกรมที่รัดกุม การออกแบบเนวิเกชั่นที่ดี ทำให้ภาพรวมของเว็บไซต์ที่ใช้ CMS นั้นออกมาในแนวมืออาชีพอย่างมาก (ที่มา เว็บไซต์ hallomyweb.com)


        ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่าย CMS ก็คือ เว็บไซต์สำเร็จรูปที่เราต้องติดตั้งบนเว็บเซิร์ฟเวอร์ (ซึ่งจะต่างกับเว็บบล๊อกที่เราแค่สมัครสามาชิกก็สามารถใช้งานได้เรย เมื่อเป็นเว็บสำเร็จรูปทำให้เรา ไม่ต้องเขียนโค๊ดใดๆ เรามีหน้าที่แค่จัดการโครงสร้างของเว็บ ธีม และการจัดการเนื้อหาของเว็บ ประโยชน์ของมัน ก็อย่างที่บอกไม่ต้องเขียนโค๊ดเอง และทำให้การพัฒนาเว็บไซต์เป็นง่าย ไม่ยุ่งยากเหมือนในอดีต โดยในปัจจุบันระบบ cms มีด้วยกันหลายตัว (อาจจะพูดได้ว่าเป็นร้อยๆตัว) แต่ที่ได้รับความนิยมทั้งในไทย และในต่างประเทศมีไม่กี่ตัว หลักๆคือ Joomla, Wordpress และ Drupal โดยเว็บไซต์นี้จะอธิบายการใช้งานหลักๆ 3 คัวนี้ แต่ก็มีตัวอื่นๆมาให้ได้ทดลองใช้ เช่น moodle , phpbb ,Mybb คือตั้งใจไว้ว่าอยากจะให้ได้ทดลอง CMS ให้ได้เยอะที่สุด อย่าลืมฝากติมตามเว็บไซต์นี้ด้วยนะครับ


Unordered List

ติดตั้ง Adobe Flash player

Sample Text

Joomla

ค้นหา

Wordpress

Drupal

Followers

Popular Posts

Find us on Facebook

Popular Posts

Recent Posts

Text Widget